คีโตน เช่น อะซิโตน ที่ผลิตในร่างกายในช่วง คีโตสิส สามารถที่จะทำให้เกิดการอักเสบรอบเส้นเลือด หรือ perivascular inflammation ได้ และนำสู่การเกิดผื่น 2. การอดอาหารอย่างหนัก ใน งานวิจัยหนึ่ง คนไข้จำนวน 50% แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการอดอาหารกับผื่นคีโต เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำในช่วงการอดอาหาร ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนไปอยู่ในภาวะคีโตสิส และนำไปสู่การเกิดผื่น 3. อาหารคาร์บต่ำ อาหารคาร์บต่ำโดยเฉพาะอาหารที่ทำให้คุณสูญเสียน้ำหนักในระยะเวลาอันสั้นมีความสำพันธ์กับการเกิดผื่นใน งานวิจัยหนึ่ง 4. อาการแพ้ อาการแพ้จากอาหารที่คนที่ทานคีโตทาน อาจจะกระตุ้นการอักเสบได้ 5. การขาดสารอาหาร การตัดอาหารบางอย่างออกไป โดยไม่ได้คำนึกถึงการทานให้ครบสารอาหารก็จะนำไปสู่การเกิดผื่น วิธีรักษาผื่นคีโต ผื่นคีโตรักษาอย่างไร ผื่นคีโตสามารถที่จะรักษาหรือบรรเทาได้ โดยการเพิ่มคาร์โบไฮเดรตอาจจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ เช่น การทานผักหัว หรือเพิ่มถั่วต่างๆ รวมถึงการรักษาโดยการรอให้หายเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง 2-4 สัปดาห์ (ลักษณะคือร่างกายเริ่มปรับตัวได้) 1. อดทน รอเวลาผ่านไปเอง ผื่นคีโตอาจจะหายไปด้วยตัวของมันเอง ภายในไม่กี่สัปดาห์ หากคุณเพิ่งเริ่มทานคีโตมันอาจจะเหมือนการรอคอยจนร่างกายเริ่มปรับตัว ยิ่งคุณอยู่ในภาวะคีโตสิสนานเท่าไร ร่างกายก็จะยิ่งคุณชิ้นกับการผลิตและใช้คีโต งานวิจัย พบว่ามีคนป่วยที่ไม่ได้รับรักษาใดๆเลย ที่ผื่นสามารถหายไปได้เองในไม่กี่สัปดาห์ 2.
แผลเป็นคีลอยด์ เชื่อว่าในชีวิตนี้คงไม่มีใครอยากเป็นแน่นอน เพราะนอกจากจะรักษาให้หายได้ยากแล้ว ยังทำให้รอยแผลดูน่าเกลียด ทำเอาหมดความมั่นใจไปซะดื้อๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีวิธีที่จะทำให้รอยแผลเป็นชนิดนี้ หายไปได้อย่างถาวร ทำได้เพียงแค่ดูดีขึ้นเท่านั้น ว่าแต่แผลเป็นชนิดนี้เกิดจากอะไร และเราสามารถป้องกันได้ไหม? มาหาคำตอบกันค่ะ แผลเป็นคีลอยด์ เกิดจากอะไร? จริงๆ ก็ยังไม่ทราบสาเหตุของแผลเป็นคีลอยด์ แต่พบว่ามักจะเกิดในผู้ป่วยที่มีผิวสีเข้ม ในตําแหน่งที่เกิดได้บ่อย ได้แก่ หัวไหล่ ติ่งหู และกลางหน้าอก ส่วนหนึ่งพบในผู้ป่วยที่มีประวัติทางพันธุกรรม คือ มีประวัติการเกิดคีลอยด์ในพ่อหรือแม่ แผลเป็นคีลอยด์นี้เชื่อว่าเกิดจากการที่แผลเป็นมีการสร้างสารที่เรียกว่าคอลลาเจนมากเกินกว่าปกติ จนทำให้เกิดแผลนูนออกมานั่นเอง เราจะป้องกันได้อย่างไร? การป้องกันการเกิดแผลเป็น เป็นเรื่องสําคัญ โดยเฉพาะการที่มีแผลใหม่ๆ เราควรจะเริ่มโดยการนวด หรือการกดบริเวณนั้นๆ โดยทั่วไปแล้ว การนวดอย่างสม่ำเสมอในระยะประมาณ 3-6 เดือนแรก เป็นเรื่องสําคัญค่ะ เพราะ ในช่วงระยะแรกที่แผลเป็นมีการอักเสบอยู่ การนวดก็จะช่วยลดไม่ให้แผลเป็นมีการขยายใหญ่โตได้ หรือ ในบางครั้ง ที่แผลเป็นมีขนาดใหญ่กว้าง เช่น แผลเป็นที่เกิดจากไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก อาจจําเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือพิเศษ หรือผ้ารัด ที่จะต้องสวมใส่ เพื่อรัดบริเวณที่เกิดแผลเป็น เช่น ใบหน้า ลําตัว แขน ขา ในช่วงระยะประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปีแรก หลังจากได้รับอุบัติเหตุ การรักษามีกี่วิธี?
การใช้แผ่นแปะแผลเป็นคีลอยด์ 2. การใช้ยาทาแผลเป็นคีลอยด์ ทั้งแบบครีมและแบบเจล 3. การฉีดแผลเป็นคีลอยด์ 4. การใช้ความเย็นจัดในการรักษา 5. การผ่าตัดคีลอยด์ ซึ่งทำได้เฉพาะในบางกรณี และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แผลเป็นคีลอยด์มักจะไม่ยุบหรือหายไปเอง จำเป็นต้องมีวิธีรักษาที่จำเพาะ ซึ่งการรักษาสามารถทำได้หลายวิธี โดยแต่ละวิธีใช้ระยะเวลาที่ต่างกัน อย่างไรก็ตามหากแผลคีลอยด์ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำวิธีการรักษาที่ถูกต้อง จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด บทความโดย แพทย์หญิง นลินี เมธาจิตติพันธ์ แพทย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: คลินิกผิวหนังและความงาม โทร. 02-836-9999 ต่อ 4521 - 2