954301, 99. 605515 เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์ เปิดทำการ 07:30 - 16:30 น. เสาร์ - อาทิตย์ เปิดทำการ 07:00 - 17:30 น. สิ่งอำนวยความสะดวก: มีรถรางไฟฟ้าให้บริการ แทนการขึ้นบันได ห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านของฝาก ลานจอดรถ โพสต์-4 วิธีการเดินทาง จากถนนแสงชูโต มุ่งหน้า ไปทางอำเภอเมืองกาญจนบุรี สังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายไป อำเภอท่าม่วง เพื่อเลี้ยวซ้ายไปเข้าเส้นแสงชูโตเก่า วิ่งเลียบถนนคลองชลประทาน ผ่านเขื่อนแม่กลองจนสุดทาง จะพบ 3 แยก ให้เลี้ยวขวา ไปตามทางอีก 1 กิโลเมตร จะพบแยกซ้ายเข้าวัดม่วงชุม เลี้ยวซ้ายไปตามทาง มีป้ายบอก วัดถ้ำเสือจะอยู่ติดกับวัดถ้ำเขาน้อย โพสต์-5 โพสต์-6
2525 เดือนพฤศจิกายน ตรงกับเดือน 10 ขึ้น 15 ค่ำ สร้างกุฏิ 5 ห้อง จำนวน 1 หลัง และสร้างหอระฆัง 8 มุข พ. 2526 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมาครั้นเมื่อถึงเดือน 6 ขึ้น 15 ค่ำ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมญาติโยมวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ จัดสร้างเป็นพระอุโบสถ 8 มุข สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ราชกุมารีทรงยกช่อฟ้าเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ. 2526 พระอุโบสถ 8 มุขนี้ ไม่มีที่ใดสร้างแต่ที่สร้างขึ้นนี้ด้วยมโนภาพด้วยจิตสำนึกที่พระอรหันต์มาประชุมและกราบทูลพระพุทธเจ้าออกเผยแพร่ พระพุทธศาสนาทั้ง 8 ทิศ พระอุโบสถนี้ได้รับความอุปการะจากผู้ว่าการรถไฟฯ บริจาครางรถไฟเพื่อใช้ในการทำแทนเสาและคาน พ.
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ อ. ท่าม่วง จ.
ศ. 2559 [1] ประวัติ [ แก้] วัดถ้ำเสือเริ่มวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างในปี พ. 2516 โดยเริ่มจากการสร้าง "หลวงพ่อชินประทานพร" สูง 9 วา 9 นิ้ว หน้าตัก 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว พระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ ปางประทานพร รอบองค์พระมีเรือนแก้วครอบลักษณะเดียวกับ พระพุทธชินราช องค์พระประดับกระเบื้องสีทอง ปัจจุบันเป็นหนึ่งใน พระพุทธรูปที่สูงที่สุดในประเทศไทย ต่อมาในปี พ. 2518 ได้มีการสร้างมณฑปเพื่อครอบรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย และเริ่มสร้างพระอุโบสถเมื่อปี พ. 2520 ซึ่งได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างพระอุโบสถอัฐมุข ต่อมาใน ปี พ. 2527 ได้จัดพิธีลงเข็ม เทเสาเอก เพื่อก่อสร้าง "พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท" ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างแล้วเสร็จ 7 ปี เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีส้มอิฐ มีความสูง 75 เมตร 9 ชั้น ตรงกลางมีบันไดเวียนสามารถเดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุด แต่ละชั้นมีหน้าต่างติดด้วยบานกระจกเลื่อนโดยรอบ และประดิษฐานพระพุทธรูปตามบริเวณช่องหน้าต่าง ชั้นบนสุดประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่ง สมเด็จพระสังฆราช เสด็จฯ มาบรรจุไว้ เมื่อเดือนมกราคม พ. 2533 [2] อ้างอิง [ แก้]
45 น.